วิธีที่จะทำให้คุณไปสู่ความสำเร็จได้

สารบัญเกลา - อยากเลือกอ่าน

ประโยคคำถามที่ถูกถามมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก แฝงไปด้วยความสงสัยมาจนถึงทุกวันนี้
ว่าจริง ๆ แล้ว เรามีเป้าหมายในชีวิตอะไร บางคนก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่า ชีวิตนี้เกิดมาทำไม
หรืออีก 5 ปีข้างหน้า เรากำลังทำอะไร แต่สำหรับบางคนได้แต่มองความสำเร็จของคนอื่น
แล้วอยากไปยืนจุดนั้นบ้าง อยากมีเป้าหมายในชีวิตที่ประสบความสำเร็จทางด้านครอบครัว ด้านการทำงานเหมือนคนอื่นบ้าง
แต่จริง ๆ แล้วชีวิตที่ประสบความสำเร็จ เพียงแค่เริ่มต้นจากรอบตัวของเราเอง
ไม่ว่าจากการทำงานที่เราทำอยู่ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เพราะการประสบความสำเร็จในชีวิตนั้น
เราต้องเริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ ไปสู่จุดหมายปลายทางที่ยิ่งใหญ่
ซึ่งวันนี้ได้เอา 4 เทคนิคที่ทำให้คุณได้มองย้อนกลับมาที่ตัวเองอีกครั้งว่าเรายังขาดอะไรไปหรือเปล่า

อยากจะประสบความสำเร็จต้องเริ่มจากอะไรบ้าง

1. รักในสิ่งที่ทำ

คุณเคยคิดบ้างไหมว่าอาการตื่นขึ้นมาในแต่ละวัน ชีวิตของคุณจะเป็นอย่างไร บางวันขี้เกียจตื่นนอนไปทำงาน
ต้องนั่งทำงานหน้าคอมเหมือนทุก ๆ วัน อีกหรือเปล่า หรือต้องเจองานเอกสารที่มากมายก่ายกองที่รอถล่มใส่ตัวคุณ
ไม่เคยได้ใช้ชีวิตที่อยากจะทำสักที บางทีการหางานที่เรารัก ที่สามารถทุ่มเทชีวิตและพลังกายได้อย่างเต็มที่ ก็ยากมาก
แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้หลาย ๆ อย่าง แม้งานที่ทำอยู่ คุณจะบอกว่าเป็นงานที่ดี มีความก้าวหน้าแถมเพื่อนร่วมงานโอเค
จะให้ลาออกไปทำงานอื่นเลยก็คงไม่ดี ยอมทนตื่นนอนแล้วขี้เกียจไปทำงาน ยังดีกว่าตื่นขึ้นมาแล้วไม่รู้จะทำอะไร
แต่ก็ยังรู้สึกอึดอัดกับเนื้องานที่ทำ เหมือนอยู่ไปวัน ๆ ทำงานเสร็จกลับบ้านนอน
ไม่รู้สึกถึงการอยากอยู่เพื่อพัฒนาตัวเองให้ก้าวหน้า หรือหาความท้าทายอื่น ๆ

แต่วิธีที่เราจะพูดถึงในที่นี้ก็คือ การรักในสิ่งที่ทำ การที่เราศรัทธาและเชื่อมั่นในสิ่งที่ทำ มองข้อดีของงานที่ทำอยู่
ว่ามีข้อดีอะไรบ้าง อย่างเช่น งานที่ทำเป็นงานเอกสาร ส่วนตัวไม่ชอบทำเพราะมีแต่ตัวหนังสือตาลายมองแต่ตัวอักษร
แต่ให้มองข้อดีของมันก็คือ ช่วยทำให้เรามีทักษะที่ละเอียดรอบคอบมาขึ้น
เก็บรายละเอียดได้ดี ฝึกให้เรามีความสังเกตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานไหนก็ตาม
ทุกงานจะมีข้อดีแฝงอยู่เสมอ แต่ที่เรามองข้อเสีย เพราะส่วนใหญ่เราถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เล็ก ๆ
จนเราลืมมองจุดที่เป็นแง่บวกให้มากขึ้น ถ้าเราสามารถหาข้อดี รักในสิ่งที่ทำ
เต็มใจ Enjoy กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคุณก็สามารถเรียนรู้ที่จะทำทุกสิ่งทุกอย่าง
เพื่อให้เป้าหมายคือการประสบความสำเร็จในชีวิตได้ง่าย ๆ

2. ขยัน มุ่งมั่น ทุ่มเท

เคยเป็นไหม กับการพยายามทำอะไรสักอย่างให้เสร็จ ตามที่คาดการณ์ไว้ แล้วทำไม่ได้
หรือคิดว่าจะทำแต่ก็ดันไม่ลงมือทำสักที อย่างการอ่านหนังสือ หลายคนจะเคยรู้สึกได้ว่า
อ่านเท่าไหร่ก็ยังไม่จบสักที บางครั้งอ่านไปก็จะหลับ ตาจะปิดอยู่ตลอด ยิ่งกว่ายานอนหลับ
บางคนไม่ได้เป็นเรื่องการอ่านหนังสือ แต่เรื่องการลงเรียนคอร์สออนไลน์
ช่วงแรก ๆ มีไฟมีฝันว่าตัวเองต้องหาความรู้ใหม่ ๆ เพื่อเอาไว้ใช้ไปทักษะติดตัว แน่นอนว่าก็ทำไม่สำเร็จ
คอร์สหมดอายุไปซะก่อน ไม่ต่างอะไรกับคนที่ชอบตุนหนังสือเยอะ ๆ แล้วบอกว่าค่อยทยอยอ่าน
แต่ก็ไม่ได้อ่านสักทีจริง ๆ ปัจจัยที่จะทำให้เรามีเป้าหมายในชีวิต และสามารถประสบความสำเร็จได้

ก็คือความขยัน พยายามทำอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง แข็งใจทำในสิ่งที่เราทำอยู่ ไม่เทงานไปก่อน
เพราะเมื่อเราตั้งใจทำในสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ด้วยความมุ่งมั่น แม้จะไม่รู้ก็ตาม ว่าสิ่งไหนทำนั้นถูกจุด
ถูกที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แค่มีความเพียรไม่ย่อท้อ สามารถทำให้เราประสบความสำเร็จได้นั้นเอง

3. ฝึกการโฟกัสเพิ่มความ Productive

ในชีวิตการทำงานแต่ละวัน ที่หลายคนต้องเจอกับปัญหาเพื่อนร่วมงาน หรือแม้แต่หัวหน้างานที่คอยใช้ให้ช่วยงานอื่น ๆ
จนไม่มีเวลาโฟกัสงานของตัวเอง บางทีก็ใช้ให้ไปทำอะไรที่ไม่ได้เกิดประโยชน์ต่องานเลย
แต่ที่ฟังมามันก็เป็นเหตุผลที่ไม่ได้เกิดจากตัวเราใช่ไหม สิ่งนี้ถ้าเราบริหารจัดการชีวิตดี ๆ
เราก็จะมีความสุขที่ได้ทำอะไรหลาย ๆ อย่าง เหมือนกับชีวิตมีสีสันมากขึ้น
แต่กลับกัน ถ้าบางคนรู้ดีว่ามีงานอยู่ในมือ ที่ต้องรับผิดชอบ ได้มอบหมายจากหัวหน้ามา ต้องทำให้เสร็จเพื่อจะได้ส่งต่องานให้กับฝ่ายอื่นได้
แต่ดันเอาเวลาที่ต้องทำ มัวแต่ไปสนใจเรื่องที่ไม่ใช่งานหลัก เช่นเพื่อนส่งทริปเที่ยวญี่ปุ่นราคาไฟไหม้มาให้
แทนที่เราจะเก็บไว้ดูตอนหลังเลิกงาน มั่นใจเลยว่า ร้อยละ 90 ทุกคนจะตกเป็นเหยื่อการตลาด กับคำว่าไฟไหม้
หันความสนใจไปกับเจ้าทริปญี่ปุ่นอย่างแน่นอน หรือแม้แต่บางทีเพื่อนในที่ทำงานชวนแวะไปซื้อชานมไข่มุกพ่นไฟเจ้าดัง
สุดท้ายหายไปสักพักใหญ่ เพราะมัวแต่เพลินกับอาหารอยู่ จนหมดเวลาทำงาน

เหตุการณ์พวกนี้ มักจะทำให้เราหลุดโฟกัสกับงาน หรือบางคนไม่สามารถจดจ่อกับงานได้เลย
แล้วพยายามโทษสิ่งรอบข้างที่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นการตั้งใจมีโฟกัสกับสิ่งที่ทำ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เราประสบความสำเร็จได้
ที่ยกตัวอย่างมาข้างบน อาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ ในชีวิตเอง เรื่องเล็กๆ ที่เราทำจนมันคุ้นชิน จนสุดท้ายแล้ว
พอเราไม่มีโฟกัสกับมัน ตอนได้รับงานไซส์บิ๊กเบิ้มมา ก็ทำไม่ได้ อาจจะทำสำเร็จแต่คุณภาพไม่ดี
การที่เรามีความตั้งใจ จดจ่อ รับผิดชอบ มีเทคนิคเริ่มต้นง่ายๆ ในชีวิต ที่เริ่มต้นได้ทุกวัน แค่คุณตื่นมาตอนเช้า
ฟังดูง่ายใช่ไหม ไหนลองถามตัวคุณสิว่า เมื่อเช้าได้ยินเสียงนาฬิกาปลุก คุณลุกขึ้นมาทันทีเลยหรือเปล่า
เพียงแค่การตื่นนอนมันแฝงไปด้วยความตั้งใจ ตื่นตัว ถ้าเราตื่นมาได้โดยไม่ผลอยหลับไปอีกสักรอบก่อน
มีกฎในการทำอะไรในช่วงเวลาเสี้ยววินาที คือกฎห้าวิ คุณ Mel Robbins พูดในบนเวที Ted X Talk การที่เราคิดอะไรได้
ก็ลงมือทำทันที จะช่วยเสริมเรื่องการตัดสินใจให้กับเราได้นั่นเอง เพราะการที่เราปล่อยความคิดให้ผ่านเลย 5 วินาที
มันจะมีชุดข้อมูลเหตุผลต่างๆ นานา เข้ามาให้เราได้ขบคิด หักล้างความตั้งใจของเราที่จะทำไว้
หรือว่าเรียกอีกอย่าง Emergency Break หรือว่าเบรกฉุกเฉิน เพราะฉะนั้นเราตัดสินใจทำอะไร
ก็ควรทำอย่างตั้งใจ และลงมือทำทันทีก่อนที่จะมีเบรกฉุกเฉินในตัว คุณจะเริ่มนำเหตุผลร้อยแปดพันเก้าเข้ามาในหั
พยายามจดจ่อกับสิ่งที่ทำ แล้วทำมันให้สำเร็จเพียงแค่นี้ ความฝันหรือเป้าหมายที่คุณตั้งไว้ ก็ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน

ทุกคนน่าจะเคยผ่านเหตุการณ์การทำงานที่มีข้อมูลถาถม หรือข้อมูลเยอะมาพร้อมๆ กัน แต่เราจะเลือกใช้งานอันไหน
หรือแม้แต่จะรู้ได้ยังไงว่า ข้อมูลชิ้นนี้จะมีประโยชน์กับเราอย่างไร เพราะก้อนข้อมูลที่เราได้มา
ดูจากเนื้อหาก็ค่อนข้างดี ถ้าอ่านไปเรื่อย ๆ ก็ถึงกับเอามือทาบอกว่าทั้งหมดคือ fake information
หรือเป็นการเขียนขึ้นผ่านอารมณ์ของผู้เขียนเท่านั้น เพราะฉะนั้น

4. ฝึกใช้ Critical Thinking

ภาษาไทยเรียกว่า การคิดเชิงวิพากษ์ให้มากขึ้น จะเป็นกระบวนการคิดในรูปแบบที่ใช้การสร้างและประเมินข้อสรุปจากหลักฐานหรือสถานการณ์ตามความเป็นจริง
ถ้ามองอีกแบบนึงก็จะเป็นการทบทวนในสิ่งที่ได้คิดได้ทำมา เป็นการตัดสินใจโดยผ่านการใช้หลักการ
เหตุและผลในการตัดสินใจเชื่อบางอย่าง หรือแม้แต่การใช้หลักฐานอ้างอิง โดยจะไม่เอาอารมณ์หรืออีโก้และอคติเข้ามามีส่วนในการตัดสินใจ
แต่ถ้าใครอยากเริ่มฝึก ก็ลองพยายามฝึกแบบเบสิคแต่ไม่เชื่ออะไรง่ายๆและให้พยายามทำตัวเป็นนักสืบที่คอยสืบหาความจริงในข้อที่บุคคลนั้นอ้างมา
แม้แต่การพยายามฝึกตั้งคำถาม ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่คุณสามารถพาตัวเองไปในทิศทางที่ถูกต้อง
อย่างน้อยการใช้ Critical Thinking ก็มีอยู่ในตัวคุณแล้วนั่นเอง แต่การที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่ละคนก็นิยามแตกต่างกันไป บางคนบอกตัวเองว่าต้องมีเงินมากมาย บางคนบอกว่าต้องมีชื่อเสียงมาก ๆ
บางคนบอกว่าต้องมีสุขภาพที่ดีสิถึงจะประสบความสำเร็จ แต่กับบางคน การประสบความสำเร็จเพียงแค่
ตื่นมาทุกวันแล้วพบว่ามีความสุข พร้อมจะเจอสิ่งดี ๆ ในชีวิตเพียงเท่านั้น

แล้วคุณล่ะ เป้าหมายปลายทางของการประสบความสำเร็จในชีวิตคืออะไร

Writer
'เกลานิสัยอันตราย' Hub รวมคนรักการพัฒนานิสัย และอยากขับเคลื่อนสังคมไปพร้อมกัน
Editor
'เกลานิสัยอันตราย' Hub รวมคนรักการพัฒนานิสัย และอยากขับเคลื่อนสังคมไปพร้อมกัน
Photographer
'เกลานิสัยอันตราย' Hub รวมคนรักการพัฒนานิสัย และอยากขับเคลื่อนสังคมไปพร้อมกัน
Photographer
'เกลานิสัยอันตราย' Hub รวมคนรักการพัฒนานิสัย และอยากขับเคลื่อนสังคมไปพร้อมกัน
Interviewer
'เกลานิสัยอันตราย' Hub รวมคนรักการพัฒนานิสัย และอยากขับเคลื่อนสังคมไปพร้อมกัน
Top