Muscle-Memory-ฝึกนิสัยสม่ำเสมอ-ต้องฝึกฝนจนกว่า-กล้ามเนื้อ-จะจำได้

ฝึกนิสัยสม่ำเสมอ ต้องฝึกฝนจนกว่า “กล้ามเนื้อ” จะจำได้

ต้องฝึกฝนจนกว่า "กล้ามเนื้อ" จะจำได้ ความจำที่ต้องการความสม่ำเสมอ
สารบัญเกลา - อยากเลือกอ่าน

ฝึกนิสัยสม่ำเสมอ ต้องฝึกฝนจนกว่า “กล้ามเนื้อ” จะจำได้

ต้องฝึกฝนจนกว่า “กล้ามเนื้อ” จะจำได้
ความจำที่ต้องการความสม่ำเสมอ

“กล้ามเนื้อ” ก็มี “ความจำ” !!!

ทำไมพอเปิดเทอมทีไร เขียนหนังสือไม่คล่องทุกที
แต่ไม่นานก็จะกลับมาเขียนได้คล่องเหมือนเดิม
หรือแม้ว่าเราจะไม่ได้จับกีตาร์มาเป็นปีแล้ว
เรายังจำวิธีเล่นได้และเล่นมันไปเองอย่างอัตโนมัติ

เราเรียกทักษะที่ร่างกายจดจำสิ่งที่เคยทำอย่างต่อเนื่องไว้ว่า
Muscle memory หรือ ความจำของกล้ามเนื้อ
ศัพท์ทางการแพทย์ใช้คำว่า “Motor memory”

เมื่อเราออกท่าเคลื่อนไหวทำกิจกรรมซ้ำ ๆ บ่อย ๆ เป็นประจำ
สมองจะสร้างความจำขึ้นมาอย่างช้า ๆ
ร่วมกันกับระบบกล้ามเนื้อไปด้วย
จนกระทั่งเราทำได้โดยอัตโนมัติ ไม่ผ่านการคิดแต่อย่างไร

Muscle Memory ในสมัยก่อนจะพูดถึงการทำงานระบบประสาท กล้ามเนื้อไม่มีความจำแต่อย่างไร
แต่ในปัจจุบันมีงานวิจัยมากขึ้นพบว่า สมองกับกล้ามเนื้อทำงานร่วมกัน
มีความจำของกล้ามเนื้อบางจำพวกที่เก็บอยู่ในกล้ามเนื้อโดยตรง

ความจำรูปแบบนี้จะเก็บอยู่ในกล้ามเนื้อมัดนั้น ๆ
ที่เคยผ่านการฝึกความแข็งแรง
เรียกความจำนี้ว่า Epigenetic Memory
กล้ามเนื้อจะพัฒนาเนื้อเยื่อให้แข็งแรงขึ้น หากเราห่างเหินจากการเคลื่อนไหวนั้น ๆ
แม้ว่ากล้ามเนื้อเราจะถดถอย แต่กล้ามเนื้อเราก็จะรอที่จะช่วยฟื้นฟูความแข็งแรง
ที่เคยถดถอยให้กลับคืนมา ในเวลาไม่นาน (ในเวลาที่ไม่เท่ากันในแต่ละคน)

ส่วนเรื่องของความจำในสมอง จำแนกออกได้ 3 ระบบ
คือ ระบบความจำการรู้สึกสัมผัส (Sensory memory)
ระบบความจำระยะสั้น (Short-term memory )
ระบบความจำระยะยาว (Long term memory)

ซึ่งความจำที่ทำให้เราทำกิจกรรมหรือใช้ทักษะได้อย่างอัตโนมัติ ไม่ต้องการความคิด
เป็นหนึ่งประเภทของความจำระยะยาว โดยความจำระยะยาวมีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด

1. Declarative memory

ความจำที่ต้องใช้ความคิด มีสติ ตั้งใจทำ
เพื่อนำข้อมูลที่เก็บไว้ในสมอง เรียกออกมาเป็น คำพูด งานเขียน ฯลฯ

2. Reflexive memory

ความจำที่ไม่ต้องผ่านความคิด ทำได้อย่างอัตโนมัติ
ความจำชนิดนี้เกิดจากการฝึกฝน ทำซ๊ำบ่อย ๆ
ให้สมองจดจำขึ้นมาอย่างช้า ๆ
เช่น การขับรถ ที่เราสามารถจดจำ น้ำหนักการแตะเบรค แตะคันเร่ง หรือขับขี่อย่างคล่องแคล่วขึ้น
การเล่นกีฬา บาสเก็ตบอล ที่ต้องฝึกกะน้ำหนักการส่งลูก ชู๊ตทำคะแนน หรือการเคลื่อนที่ในสนาม

ดูเหมือนว่าการสร้างนิสัยความสม่ำเสมอ ฝึกซ้อมซ้ำ ๆ
เป็นอะไรที่ดูดีมาก และจำเป็นที่จะทำ
แต่มันจะไม่เกิดประโยชน์เลย
ถ้าเราแค่ฝึก ๆ ไป หรือทำผิดวิธีจะเกิดการเคยชินแก้ไขยาก

Talent is Overrated

ในหนังสือ Talent is Overrated

กล่าวว่า การแค่ฝึก ๆ ไป จะ 10,000 ชั่วโมง
ก็แทบจะไม่มีประโยชน์ หากเราไม่ได้ฝึกฝนอย่างจดจ่อ
ไม่ได้มีเป้าหมายชัดเจนว่า เราจะพัฒนาอะไร
ไม่ได้ให้ Feedback ตัวเอง ประเมินผลลัพธ์
เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น

ทั้งนี้การที่เราจะสร้างนิสัยความสม่ำเสมอได้
เราต้องอาศัย วินัย ความอดทน และกำลังใจ พอสมควร
วินัยที่จะทำอย่างต่อเนื่อง
ความอดทนในการทำซ้ำ ๆ เพื่อเช็คผลที่ทำได้
กำลังใจที่จะไม่ให้เราท้อไปก่อน ที่จะเกิดผลลัพธ์ที่ดี

ดังนั้นความสม่ำเสมอจากการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
ทำให้เรามีทักษะความสามารถหรือพัฒนาตัวเอง
ได้อย่างคล่องแคล่วเป็นอัตโนมัติ
แม้จะขาดการฝึกที่ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ แล้ว
ความสามารถที่เคยมีจะลดลงไป
แต่เราก็ไม่ได้เริ่มต้นใหม่จากศูนย์แน่นอน
สมองกับกล้ามเนื้อรอวันที่เรามาฟื้นฟูอยู่เสมอ
ขอแค่เรามีกำลังใจมากพอที่จะทำมันอย่างสม่ำเสมอ
หมั่นตรวจสอบสิ่งที่ทำ และปรับปรุงแก้ไขต่อไป

อ้างอิง:
Nike : Medicine & Science In Sports & Exercise https://swoo.sh/3pMvScL
https://bit.ly/2Hi0KQU
https://bit.ly/3kILHx2
Trader 4.0 https://bit.ly/2INqHs3
zyo71 https://bit.ly/3lLbupG
be fit & eat well https://bit.ly/38QnKSk
https://bit.ly/36HgzsW

Writer
แค่ทีมงานเกลาคนนึง เป็นเป็ดตัวเล็ก ๆ ตัวนึง และยังคงต้องพัฒนา ปรับปรุงต่อไปเรื่อย ๆ หวังว่าเรื่องราวที่เราแชร์จะมีประโยชน์ต่อใครหลาย ๆ คน
Content Desingner
'เกลานิสัยอันตราย' Hub รวมคนรักการพัฒนานิสัย และอยากขับเคลื่อนสังคมไปพร้อมกัน
Top